 |
พระราชวังมัณฑะเลย์ (จำลอง) |
หลังจากที่เทียบท่าเพื่อที่จะไปดูมหาเจดีย์มิงกุนแล้ว เรานั่งแทกซี่ประมาณสิบนาทีก็ถึงค่ะ ระยะทางไม่ไกลแต่แทกซี่สุดชิลของเราพาชมบรรยากาศสองข้างทางนานไปนิด ที่สุดเราก็มาถึง จ่ายค่าธรรมเนียม ($3USD)เยี่ยมชมสถานที่แล้วก็ก็ได้เวลาฝากรองเท้าไว้ก่อนเดินเท้าเปล่า ท่ามกลางแดดร้อน พื้นที่แสนจะไม่เรียบ ถ้าไม่ระวังก็อาจเสียเลือดได้ แต่กฏคือกฏค่ะ
 |
ฝากรองเท้ากันที่นี่ |
 |
หนทางที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ |
 |
ข้อควรระวัง...ถ้าแคบมาก อย่าเสี่ยงนะคะ |
เล่าสู่กันฟัง: เดินขึ้นลง จะมีเด็กหญิงชายประกบเราตัวต่อตัว เขาไม่ทำร้ายค่ะ เขามาคุยด้วย มาอำนวยความสะดวกให้เราเท่าที่เขาจะทำได้เพื่อแลกกับเงินที่เรา (อาจจะ) ให้ เด็กๆจะมีกิ่งไม้ที่เต็มไปด้วยใบ คอยเดินนำหน้าและวางที่พื้นอันร้อนระอุ ให้เราเหยียบเพื่อคลายความร้อน ตอนแรกๆก็หงุดหงิดค่ะ แต่คิดไปคิดมา เด็กๆเค้าก็หาเงินในขีดจำกัดที่เขาสามารถทำได้ … แบ่งปัน.
เจดีย์ที่เราเห็นนี้เป็นแค่ส่วนฐานเท่านั้นค่ะ แต่ถึงกระนั้นก็มีความสูงถึง 50 เมตร โดยใช้แรงงานทาสที่ยึดมาได้จากรัฐยะไข่ในสมัยพระเจ้าปดุง ทรงต้องการให้เจดีย์นี้ยิ่งใหญ่ที่สุดในดินแดนสุวรรณภูมิรวมถึงให้สูงใหญ่กว่าพระปฐมเจดีย์ที่บ้านเราด้วย จากแปลนที่ออกแบบไว้ให้มีความสูง 152 เมตรแต่หลังจากเริ่มดำเนินการสร้างได้ 7 ปีพระองค์ก็เสด็จสวรรคต สิ่งที่เราเห็นทุกวันนี้ก็มีเพียงฐานเท่านั้น
 |
ซากเท้าสิงห์ที่อยู่ใกล้แม่น้ำ ด้านหน้าเจดีย์มิงกุน |
 |
รายละเอียดยังปรากฏให้เห็น |
 |
บรรไดทางขึ้นช่วงแรก |
หลังจากเดินขึ้นไปด้วยความพยายามเป็นอย่างมากก็เก็บภาพวิวมาดูต่างหน้าหน่อยนึงค่ะ
 |
ภาพมุมสูงจากเจดีย์มิงกุน |
จากนี้เราก็ไปดูระฆังที่ว่ากันว่าใหญ่เป็นอันดับสองของโลกรองจากของรัสเซีย ระฆังมิงกุนนี้ ถ้าฟังจากชื่อก็น่าจะเดาได้ว่าสร้างเพื่อให้เป็นสิ่งคู่กับกับเจดีย์มิงกุน จึงต้องสร้างให้มีขนาดคู่ควรกัน ซึ่งมีเส้นรอบวงถึง 10 เมตร สูง 3.7เมตรและหนักถึง 87 ตันค่ะ
 |
ระฆังมิงกุน |
ในบริเวรใกล้กันก็มีวัดที่ประชาชนยังมากราบไหว้สักการะอยู่ทุกวันค่ะ เราเหนื่อยและเพลียเลยตัดสินใจกลับลงเรือ หลับ หาอาหารรองท้องหน่อย มาถึงคลองริมพระราชวังมัณฑะเลย์ก็พบกับร้านน่านั่ง (มีแอร์) กับหน้าตาอาหารน่ากิน ที่สำคัญมีกาแฟอร่อยด้วยค่ะ
 |
ไม่ง่ายที่จะหาอาหารถูกปาก บรรยากาศดีได้ |
 |
Cafe City ริมคลองรอบวัง สำหรับพักเหนื่อย ดื่มกาแฟดีๆ อาหารอร่อยๆ ที่มัณฑะเลย์ |
ถึงซะทีพระราชวังมัณฑะเลย์จำลอง ที่นี่เราเจอปัญหาค่ะ ค่าเข้าชม $ 10 USD ไม่รับเงินของตัวเองนะจ๊ะ จ๊าดไม่มีค่าสำหรับที่นี่ พวกเรามีแบงค์ดอลล่าพอค่ะ แต่รูปร่างหน้าตาไม่ดีพอ เพื่อนบางคนก็เลยสละสิทธิ์ในการเข้าชมไป ส่วนตัวคิดว่า พระราชวังจำลองนี้ไม่ได้มีความน่าสนใจมากมายนักเมื่อเทียบกับค่าเข้าชม เน้นอีกครั้งว่าเป็นความเห็นส่วนตัวนะค่ะ
 |
FRESH NOTE ONLY |
 |
ตามธรรมเนียม ต้องถ่ายป้ายมาเป็นที่ระทึก |
 |
หน้าตาประมาณนี้ทั้งวังค่ะ |
 |
สามร้อยกว่าบาท |
เข้าไปเดินๆพอทั่วก็ออกค่ะ หรือเราไม่ลึกซึ้งก้ไม่รู้ ไปต่อกันดีกว่าที่พระตำหนักไม้สักชเวนันดอร์ซึ่งสร้างโดยพระเจ้ามินดง
 |
พระตำหนักไม้สักชเวนานดอร์ |
 |
น้องเณร |
 |
แม่ค้าดอกไม้หน้าวัด |
สุดท้าย ท้ายสุดของวันจบที่วัดกุโธดอร์ วัดที่พระเจ้ามินดงสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งการสังคายนาพระไตรปิฎก ซึ่งทรงโปรดให้จารึกลงบนหินอ่อน 8,400 พระธรรมขันธ์ จำนวน 729 แผ่นเป็นภาษาบาลรรอบเจดีย์มหาโลกมารชิน ซึ่งนับเป็นพระไตรปิฏกที่ใหญ่ที่สุดในโลก
 |
ไตรปิฏกที่ใหญ่ที่สุดในโลกบนแผ่นหินอ่อน |
 |
เจดีย์มหาโลกมารชิน |
 |
โถงทางเดินก่อนถึงพระประธานของวัด |
เอวัง มัณฑะเลย์ด้วยประการชะนี้ (สะกดถูกมั๊ย) …คนชอบเที่ยว...
No comments:
Post a Comment